น้ำหอมที่เราใช้ทุกวันนี้มักจะเป็นรุ่นที่มีการอัพเดทให้เป็นปีใหม่ ๆ ตามยุคตามสมัยแต่คุณรู้มั้ยว่าน้ำหอมรุ่นแรกของแต่ละแบรนด์มีหน้าตาอย่างไร วันนี้เรามาพบกับ 7 น้ำหอมรุ่นแรกจาก 7 แบรนด์ มาย้อนเวลาไปยังรุ่นแรกที่พวกเค้าวางขายกันค่ะ
1. Burberry – 1991 Society Burberry for women
เป็นน้ำหอมกลิ่น Chypre Floral
Society เปิดตัวในปี 1991
ท็อปโน๊ต ได้แก่ Osmanthus, Tuberose, Hyacinth, African Orange flower, Green Notes และ Bergamot
กลิ่นกลาง ได้แก่ Gardenia, Rose, Orchid, Mimosa, Ylang-Ylang, iris, Jasmine และ Lily-of-the-Valley
เบสโน๊ต ได้แก่ oak moss, Incense, Vanille, Musk, Patchouli, Virginia Cedar, Myrhh และ Amber
Society for Women by Burberry เป็นน้ำหอมเข้าขั้นคลาสสิคที่เปิดตัวในปี 1991 มีส่วนผสมที่สดชื่นและคมชัดของซิตรัสและดอกไม้ทั้งคมและอ่อนโยนในเวลาเดียวกันเหมาะสำหรับวันสบายๆที่สวมชุดลำลอง
มีดอกไม้ทั้งหมด 12 ชนิด! ดอกสีชมพูให้ความฟลอรัลสดใส ดอกไม้สีขาวที่ครีมมี่ ดอกไม้สีม่วงให้กลิ่นกรุ่น ๆ ของแป้งสีเหลืองให้อารมณ์ที่ผ่อนคลาย อบอุ่นด้วยวนิลลา ซีดาร์และเอมเบอร์ น้ำหอมกลิ่นนี้ได้รวมหลากหลายอารมณ์มาผสมกันอย่างละนิดละหน่อย ที่มาในความเข้มข้นสูง
2. Bvlgari – 1992 Eau Parfumee au The Vert Bvlgari for women and men
เป็นน้ำหอมกลิ่น Citrus Aromatic
สำหรับผู้หญิงและผู้ชาย
Eau Parfumee au The Vert เปิดตัวในปี 1992
ผู้ที่อยู่เบื้องหลังน้ำหอมนี้คือ Jean-Claude Ellena
ท็อปโน๊ต : Cardamom, Bergamot, Lemon, Coriander, Orange Blossom และ Mandarin Orange
โน๊ตกลาง : Jasmine, Lily-of-the-Valley และ Bulgarian Rose
เบสโน๊ต : Green Tea, Cedar, Musk, Precious Woods, Sandalwood และ Amber
เป็นน้ำหอมกลิ่นใบชาที่ผ่อนคลาย กลิ่นออกเขียว ๆ ของยอดไม้ตัดด้วยผลไม้เรียกพลังจากซิตรัสอย่างเบอร์กาม็อท ส้มแมนดารินและเลม่อน มีดอกกุหลาบ มะลิและลิลลี่ออฟเดอะวอลเลย์มาตัดทำให้กลิ่นเกิดมิติยิ่งเมื่อกลิ่นไม้ได้แสดงตัวออกมากลิ่นนี้จะทำจิตใจของเราให้อบอุ่นและสงบ
3. Calvin Klein – 1978 Calvin Klein by Calvin Klein for women
เป็นน้ำหอมกลิ่น Chypre Floral
คาลวินไคลน์เปิดตัวในปี 2521
ท็อปโน้ต : Hyacinth, Aldehydes, Gardenia, Peach และ Raspberry
กลิ่นกลาง : Rose, Carnation, Orris Root, Lily-of-the-Valley และ Jasmine;
เบสโน๊ต : Oakmoss, Amber, Sandalwood, Cedar และ Musk
รุ่น Calvin Klein เป็นน้ำหอมกลิ่นแรกของ Calvin Klein ถูกเปิดตัวในปี 1978 บางครั้งเรียกว่าCalvin Klein Classic, Calvin Klein Original และ Calvin Klein Red เนื่องจากกล่องแพคเกจที่มีสีแดง กลิ่นหอมคือเบาและดอกไม้ที่นุ่มนวล มีกลิ่นอายของกุหลาบอ่อน ๆ
โดดเด่นด้วยโทนดอกไม้ไฮยาซิน กุหลาบและคาเนชั่น เพิ่มความแข็งแรงด้วยกลิ่นของไม้ด้วยซีดาร์และแซนดอล มีกลิ่นชื้น ๆ ของโอ๊กมอส เด่นที่ดอกไม้แต่รองพื้นด้วยกลิ่นสาบเขียวและสดชื่น
4. Chloé – 1975 Chloé (Parfums Chloé) Chloé for women
เป็นน้ำหอมกลิ่น Floral
Chloé (Parfums Chloé) เปิดตัวในปี 1975
ผู้ที่อยู่เบื้องหลังน้ำหอมนี้คือ Betty Busse
ท็อปโน๊ต : Aldehydes, Peach, Honeysuckle, Hiacynth, Lilac, Ylang-Ylang, Orange Blossom, Coconut และ Bergamot
โน๊ตกลาง : Tuberose, Narcissus, Carnation, Jasmine, Rose และ Orris Root
โน๊ตฐาน : Oakmoss, Amber, Sandalwood, Benzoin, Musk และ Cedar
ที่จริงได้เปิดตัวไปก่อนหน้านี้ด้วยการเป็นส่วนหนึ่งของแบรนด์ Parfums Lagerfeld เมื่อช่วงการเริ่มต้นของแบรนด์ Chloé แต่มาในตอนหลังชื่อของ Lagerfeld ก็ถูกทิ้งไปและเหลือชื่อแค่ Parfums Chloé เท่านั้น รุ่นนี้ได้ปรับเปลี่ยนสูตรจากต้นฉบับสูตรของ Karl Lagerfeld
เล่นกลิ่นที่สว่างไสวด้วยดอกไม้ขาวอย่างฮันนี้ซักเกิล มะลิ ดอกส้ม ให้กลิ่นที่ปลอดโปร่งและชุ่มฉ่ำจากพีช มีความอบอวลด้วยเอมเบอร์และไม้ซีดาร์ โดยรวมเป็นโทนดอกไม้ที่ขาวที่ติดทนนานเพราะมีกลิ่นฐานที่แน่นพอสมควร
5. Christian Dior – 1947 Miss Dior Parfum Christian Dior for women
เป็นน้ำหอมกลิ่น Chypre Floral
Miss Dior Parfum เปิดตัวในปี 1947
Miss Dior Parfum ถูกสร้างขึ้นโดย Jean Carles และ Paul Vacher
ท็อปโน๊ต : Galbanum
โน๊ตกลาง : Jusmine
โน๊ตฐาน : Patchouli
Miss Dior Extrait de Parfum เป็นน้ำหอมรุ่นแรกของ Dior มีความเข้มข้นและเข้มข้นมาก ส่วนประกอบของ Chypre สีเขียวที่หรูหราและประณีตนี้ประกอบด้วยกลิ่นของ Galbanum
จัสมิน และแพทชูลี่
Dior ได้ใช้กลิ่นเด่นอย่าง Patchouli มาตั้งแต่รุ่นแรกจนถึงปัจจุบันก็ยังคงเป็นส่วนประกอบสำคัญ ให้ความรู้สึกถึงความเขียวความเป็นธรรมชาติที่ไม่บางเบา มีความหนักแน่นด้วยโทนไม้ นับว่าเป็นรุ่นแรกที่ทำหน้าที่ได้ทนทานสุด ๆ
6. Dolce&Gabbana – 1992 Dolce&Gabbana by Dolce&Gabbana for women
เป็นน้ำหอมกลิ่น Floral Aldehyde
Dolce & Gabbana เปิดตัวในปี 1992
สร้างโดย Jean-Pierre Mary และ Martine Pallix
ท็อปโน๊ต : Aldehydes, Basil, Citruses, Ivy, Mandarin Orange, Freesia และ Bergamot
กลิ่นกลาง : Carnation, Marigold, Coriander, Orange Blossom, Lily, Jasmine, Bulgarian Rose และ Lily-of-the-Valley
โน๊ตฐาน : Sandalwood, Vanilla, Musk และ Tonka Bean
กลิ่นหอมแบบผู้หญิงคลาสสิกเข้มข้นนี้เป็นโทนกลิ่นดอกไม้อัลดีไฮด์ นี่คือน้ำหอมกลิ่นแรกของ Dolce & Gabanna องค์ประกอบจะขึ้นอยู่กับความแตกต่างระหว่างความหวานและขมขื่นผู้หญิงและผู้ชาย กลิ่นด้านบนมีกลิ่นหอม – ซิตรัสและประกอบด้วยส้มแมนดาริน มะกรูด ใบโหระพา และอัลดีไฮด์ซึ่งเป็นกลิ่นเปิดที่ค่อนข้างแรง หัวใจของกลิ่นเป็นดอกไม้ที่สร้างขึ้นจากดอกมะลิ ดอกคาร์เนชั่นสีแดง ดอกส้ม และดอกลิลลี่ ไม้จันทน์เนื้อเนียนในกลิ่นฐานเสริมด้วยกลิ่นหอมหวานและบัลซามิกของวานิลลา Tonka และมัสค์ แนะนำให้ใช้น้ำหอมสำหรับงานราตรีและโอกาสพิเศษ
7. Giorgio Armani – 1981 Armani by Giorgio Armani for women
เป็นน้ำหอมกลิ่น Chypre Floral
Armani เปิดตัวในปี 1981
ผู้ที่อยู่เบื้องหลังน้ำหอมนี้คือ Ron Winnegrad
ท็อปโน๊ต : Galbanum, Marigold, Aldehydes, Bergamot, Pineapple และ Mint
โน๊ตกลาง : Narcissus, Orris Root, Rose, Tuberose, Jasmine, Cyclamen, Lily-of-the-Valley และ Orchid
โน๊ตฐาน : Oakmoss, Benzoin, Cedar, Amber, Sandalwood, Tonka Bean และ Musk
กลิ่นเด่นนั้นนำมาด้วยกลิ่นเขียวของดอก Galbanum และดอกดาวเรืองฝรั่ง กลิ่นฐานที่อัดแน่นด้วยความอบอุ่นของเอมเบอร์ ไม้ ถั่วตองกามาเร็วให้ได้กลิ่นตั้งแต่ต้น กลิ่นดอกไม้ต่าง ๆ กลายเป็นส่วนประกอบที่อยู่ข้างหลังแทน
เป็นกลิ่นที่แปลกที่ทำมาให้ผู้หญิง เนื้อกลิ่นที่แน่นจนผู้ชายที่บึกบึนใช้ได้สบาย ๆ เลยที่เดียว ด้วยกลิ่นที่มีความแน่นและมั่นคงด้วยแนวโทนวู๊ดดี้
จะสังเกตได้ว่าน้ำหอมสมัยก่อนมีส่วนผสมที่ซับซ้อนและมีความเข้มข้นมากกว่าปัจจุบันมาก และคงจะเป็นเรื่องยากมากที่จะหา 7 น้ำหอมรุ่นแรกจาก 7 แบรนด์ มาลองดมเพราะทางแบรนด์น่าจะหยุดการผลิตไปแล้ว เหลือแต่เว็ปไซด์ใหญ่ ๆ บางเว็ปที่มีคนนำมาขายลองหามาใช้ดูค่ะเพื่อย้อนอดีตไปสัมผัสยังสมัยคุณพ่อคุณแม่ของเราเป็นหนุ่มสาวกัน
ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจากhttps://www.fragrantica.com/designers/