มาต่อกันกับผิวโกลว์ได้ง่าย ๆ จากของในครัวตอน 2 กันค่ะ เพราะเรายังมีวัตถุดิบอีกหลายอย่างใช้เพื่อการบำรุงผิวโกลว์ที่วางไว้ในครัวโดยแบบที่คุณนั้นอาจมองข้าม โดยจะช่วยให้คุณสามารถเปลี่ยนผิวดูหมองคล้ําและเหนื่อยล้าให้เปล่งปลั่งอย่างเป็นธรรมชาติไม่ว่าคุณจะมีเวลามากหรือน้อยก็ตาม แทนที่จะเสี่ยงกับครีมที่เป็นอันตราย คุณลองมองหาการเยียวยาผิวด้วยวัตถุดิบจากธรรมชาติเหล่านี้ซึ่งมีประโยชน์ ปลอดภัย และสามารถนำมาผสมกันเพื่อปรับสูตรการบำรุงผิวหน้าที่เหมาะกับสภาพผิวของคุณโดยเฉพาะ สนุกและไร้สารเคมีเป็นทางเลือกที่ดีในการดูแลตัวเองนะ เอาหล่ะมาดูกันค่ะว่ามีอะไรอีกบ้างที่ควรหยิบมาบำรุงผิวกัน!
1.แตงกวา
แตงกวาจะฟื้นฟูผิวของเราได้อย่างไรนะเหรอ?นอกจากแตงกวาจะเป็นผักแนมชิ้นโปรดกับน้ำพริกต่าง ๆ แล้วเมื่อเรากินมันแล้วลงไปในลําไส้มันจะส่งวิตามินซีและกรดคาเฟอิกที่จะไปต่อสู้กับการอักเสบ แต่เมื่อนําไปใช้กับใบหน้าของคุณสารอาหารเดียวกันนี้สามารถให้ผลในเชิงบวกสําหรับการฟื้นฟูผิวของคุณ เช่น สร้างการต้านอนุมูลอิสระ บํารุงผิวให้ผ่อนคลาย ลดอาการบวม บรรเทาผิวที่ถูกแดดเผา
ในแตงกวาคือ น้ําร้อยละ 96 ทําให้เป็นวัตถุดิบเพิ่มความชุ่มชื้นจากธรรมชาติ พร้อมทั้งมีฤทธิ์เย็นในการปลอบประโลมผิวให้กับผิวโดยสามารถใช้ผลสด ๆ จึงเหมาะกับการ DIY ได้เองที่บ้าน แตงกวามีระดับ pH เช่นเดียวกับผิวของเรา ช่วยเติมเต็มชั้นป้องกันของผิวช่วยให้ผิวชุ่มชื้นจึงส่งเสริมผิวเปล่งปลั่ง
ทั้งนี้มันปลอดภัยสําหรับผิวบอบบางเนื่องจากไม่มีส่วนผสมหรือสารใด ๆ ที่รุนแรงจนอาจระคายเคืองผิวได้ เหมาะกับทั้งผิวแห้ง ผิวแตก ความหมองคล้ํา
ใช้ทรีทเมนท์ตาเพื่อลดอาการตาบวม
เราหลายคนมีชีวิตที่วุ่นวายและนอนหลับน้อยกว่าที่ร่างกายของเราต้องการ ด้วยเหตุนี้ร่างกายของเราจึงแสดงอาการโกรธเกรี้ยวด้วยความหมองคล้ำและบวมปูด โชคดีที่แตงกวาเย็น ๆ นั้นสามารถช่วยระงับความโกรธนี้ได้เช่นเดียวกับการบรรเทาความร้อนในส่วนอื่น ๆ ของร่างกาย แต่พิเศษไปกว่าการประคบเย็นอื่น ๆ เพราะในแตงกว่ามีน้ำที่มีประโยชน์ที่สามารถลดอาการบวมและปลอบประโลมผิวที่เสียหายจึงทําให้ดวงตาของคุณดูสดชื่น นี่เป็นเพราะวิตามินซีของแตงกวาและปริมาณกรดโฟลิก แต่อย่าลืมครีมบํารุงรอบดวงตายังจำเป็นหลังมาสก์แตงกวาเพราะเรายังตั้งการล็อกความชุ่มชื้นให้อยู่อย่างยาวนาน
เป็นโทนเนอร์เพื่อปลอบประโลมผิวที่ไหม้หรือเสียหาย
บางครั้งเราอาจจะไม่ได้ระวังผิวจากแสงแดดเท่าที่ควรจนเกิดซันเบิร์นได้ เหตุนี้โทนเนอร์แตงกวาโฮมเมดจะสามารถช่วยให้ผิวที่ร้อนระอุกลับมาสงบและเย็นลงได้
ลองทำดู
สเปรย์น้ำแตงกวา
- ล้างปอกเปลือกและหั่นแตงกวาแล้วเทลงในกระทะเติมน้ำให้ท่วมเล็กน้อย
- ให้ใช้ไฟอ่อน ๆ ประมาณ 5-7 นาทีแล้วนำลงโถปั่น ให้ปั่นจนเนื้อเนียน
- จากนั้นให้ใช้ผ้ารองแล้วเทส่วนผสมเพื่อกรองอย่างละเอียดคุณสามารถบีบให้น้ำหยดออกมาให้หมดได้
- ให้บรรจุในขวดสเปรย์หรือภาชนะที่ผ่านการฆ่าเชื้อเพื่อการใช้ที่ยาวนานขึ้น
และอาจจะเพิ่มน้ํากุหลาบนิดหน่อยเพื่อกลิ่นที่หอมขึ้นและประสิทธิภาพในการให้ความชุ่มชื้นและการรักษาที่ยาวนานชึ้น
หมายเหตุ : หากไม่มีสารกันบูดอย่า!เก็บส่วนผสมไว้นานกว่า 3 ถึง 4 วัน
2.มะละกอ
ผลไม้สีสดใสแสนฉ่ำนี้ไม่เพียงมีรสชาติที่สดชื่นเป็นเอกลักษณ์แต่กลับสามารถมอบสิ่งมหัศจรรย์ให้กับผิวของคุณได้เพราะเต็มไปด้วยสารอาหารที่เหมาะสําหรับร่างกายและรวมถึงเป็นสารอาหารที่ดีให้กับผิวของคุณด้วย ไม่ว่าจะอยากมีผิวที่ดูอ่อนเยาว์หรือต้องการลดรอยแดงที่เกิดจากสิวมะละกอสามารถช่วยผิวของคุณได้
มะละกออุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ
มะละกออุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระหลายชนิดรวมถึงไลโคปีนซึ่งสามารถช่วยลดความเสียหายต่อเซลล์ผิวที่มักเกิดจากอนุมูลอิสระ ผิวที่ได้รับการฟื้นฟูจะดูเรียบเนียนและอ่อนเยาว์ขึ้นซึ่งหมายความว่ามะละกอจะช่วยชะลอการสร้างอนุมูลอิสระจึงลดอายุผิวได้เช่นกัน
มะละกอเต็มไปด้วยเอนไซม์ที่มีประโยชน์
มะละกอมักรับประทานเพื่อประโยชน์ในการย่อยอาหารซึ่งมีเอนไซม์ (คือ papain และ chymopapain) จีงสามารถลดการสะสมของผิวที่ตายแล้ว ผลัดเซลล์ผิวเผยผิวใหม่ที่นุ่มและอ่อนเยาว์และลดการอุดตันรูขุมขนของคุณจึงสามารถลดสิวลงได้อีกด้วย
มะละกอเป็นแหล่งที่ยอดเยี่ยมของวิตามินเอ
มะละกอเป็นแหล่งธรรมชาติของวิตามินเอซึ่งเป็นสารอาหารที่จําเป็นต่อร่างกายต้องการเพื่อรักษาผิว ตา และระบบภูมิคุ้มกัน เมื่อพูดถึงผิววิตามินเอ (ในรูปแบบของเรตินอล) สามารถช่วยกระตุ้นเซลล์ผิวใหม่ จะทําให้ผิวของคุณดูเรียบเนียนและลดความแห้งกร้าน สารสกัดจากมะละกอถูกนํามาใช้ในผลิตภัณฑ์บํารุงผิวซึ่งออกแบบมาเพื่อให้ความชุ่มชื้นหรือลดการเกิดรอยแผลเป็นมากมายในท้องตลาด
ลองทำดู
มาสก์หน้ามะละกอ
- นำมะละกอบดหนึ่งถ้วยผสมกับน้ําผึ้งสองช้อนโต๊ะ(ช่วยต้านเชื้อแบคทีเรีย)
- ใช้กับใบหน้าและลําคอ ทิ้งไว้ประมาณ 15-20 นาทีก่อนล้างออกด้วยน้ําอุ่นหรือน้ําเย็น
3.ว่านหางจระเข้
ว่านหางจระเข้ได้รับการยกย่องสําหรับมันประโยชน์บํารุงผิวมานานหลายศตวรรษและยังได้รับความสนใจมาจนถึงปัจจุบันและยังคงเป็นส่วนผสมที่ถูกเลือกในการผสมลงในผลิตภัณฑ์บํารุงผิว บํารุงเส้นผม และผลิตภัณฑ์สุขภาพมากมาย เพราะว่านหางจระเข้อุดมไปด้วยวิตามินและสารต้านอนุมูลอิสระที่ดีต่อผิวของเรา ว่านหางจระเข้ช่วยให้ผิวเปล่งปลั่งและอ่อนนุ่ม นอกจากนี้ยังป้องกันสิว การประยุกต์ใช้ว่านหางจระเข้ในการถูกแดดเผาช่วยในการรักษาได้เร็วขึ้น
มีคุณสมบัติให้ความชุ่มชื้น
ประโยชน์ที่ค่อนข้างเป็นรู้จักกันดีที่สุดของว่านหางจระเข้ คือ มันมีคุณสมบัติให้ความชุ่มชื้นช่วยบํารุงผิวโดยไม่ทิ้งความมันเยิ้ม มันจะรักษาและปลอบประโลมแผลเล็ก ๆ น้อย ๆ หรือการระคายเคืองที่เกิดจากการโกนหนวด
เพื่อช่วยสงบผิวจากซันเบิร์น
เวลาคุณไปช้อปปิ้งครีมกันแดดคุณอาจสังเกตเห็นว่าส่วนใหญ่ว่านหางจระเข้จะถูกระบุว่าเป็นส่วนผสมในผลิตภัณฑ์มากมาย มันมีเหตุผลสําหรับเรื่องนี้เพราะว่านหางจระเข้จะช่วยรักษาชั้นบนสุดของผิวและทําหน้าที่เป็นชั้นป้องกันบนพื้นผิวเนื่องจากเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่อุดมไปด้วยสารอาหารที่ช่วยรักษาผิวได้เร็วขึ้น
ต่อต้านริ้วรอย
หนึ่งในเหตุผลหลักสําหรับสัญญาณที่มองเห็นได้ของริ้วรอยคือการสูญเสียของ elastin ในผิวหนัง ว่านหางจระเข้มีสารต้านอนุมูลอิสระมากมายรวมถึงสารที่ช่วยปรับปรุงความกระชับและความยืดหยุ่นของผิว สารต้านอนุมูลอิสระที่พบในว่านหางจระเข้ได้แก่ วิตามินซี และเบต้าแคโรทีน ซึ่งเป็นส่วนผสมที่ลงตัวของการต้านริ้วรอย แต่โบนัสที่ได้เพิ่มคือความชุ่มชื้นที่ดีไงล่ะ
ลองทำดู
มาสก์ว่านสด
- คุณสามารถนําวุ่นจากว่านไปใช้กับผิวหนังโดยตรงได้เลย
- ค่อยๆขูดวุ่นจากว่านหางจระเข้ออกจากใบ หากใบใหญ่สามารถแร่ให้เป็นแผ่นบางลงและนําไปแป๊ะบนผิวของคุณ ทิ้งไว้ประมาณ 10 ถึง 15 นาที จากนั้นล้างผิวด้วยน้ําเย็นแล้วซับผิวให้แห้ง
4.มะนาว
ในขณะที่พวกเราหลายคนใช้มะนาวเพื่อปรุงอาหารและเครื่องดื่มที่แสนจะสดชื่น จนคุณอาจลืมไปว่ามะนาวเป็นขุมพลังในการดูแลผิว มะนาวนั้นสามารถต้านเชื้อแบคทีเรียและป้องกันการติดเชื้อและสิว อุดมไปด้วยวิตามินซีและกรดซิตริก วิตามินซีเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพที่จะช่วยเพิ่มการผลิตคอลลาเจนรักษาความยืดหยุ่นของผิว นอกจากนี้ยังช่วยให้สีผิวของเราจางลงและให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวของเรา มันเป็นตัวช่วยที่น่าอัศจรรย์ให้กับหัวเข่าและข้อศอกที่คล้ำและด้านให้กลับมานุ่มและกระจ่างใสขึ้นอีกครั้ง และสำหรับการบริโภคมันจะช่วยดีท็อกซ์ร่างกายของเราอีกด้วยนะ
รักษาจุดด่างดํา
หากคุณต่อสู้กับจุดด่างดําบนผิวของคุณอาจสามารถใช้มะนาวเฉพาะบริเวณเพื่อลดปัญหาเฉพาะจุด เช่นเดียวกับผลไม้รสเปรี้ยวอื่น ๆ น้ํามะนาวเป็นสารฟอกสีธรรมชาติและสามารถช่วยทําให้ผิวขาวขึ้น
ปลอบประโลมสิวให้แห้งไวพร้อมทั้งแผลและจุดด่างดำดูดีขึ้นอีกด้วย
ต้านเชื้อแบคทีเรีย
มะนาวมีคุณสมบัติต้านเชื้อแบคทีเรีย เพราะสิวหลายประเภทที่เกิดจากการเจริญเติบโตของแบคทีเรียบนผิวหนังซึ่งเข้าสู่รูขุมขนของคุณและทําให้เกิดการอักเสบที่นําไปสู่แผลสิวสีแดงแสนเจ็บปวด
ลดริ้วรอย
มะนาวเป็นหนึ่งในวิธีที่ดีที่สุดตามธรรมชาติในการส่งเสริมผิวให้ดูอ่อนเยาว์ วิตามินซีที่พบในมะนาวช่วยบํารุงเซลล์ผิวทั้งภายในและภายนอกโดยการเพิ่มสารต้านอนุมูลอิสระให้กับร่างกายของคุณซึ่งสามารถป้องกันคุณจากอนุมูลอิสระซึ่งนําไปสู่ความเสียหายของเนื้อเยื่อและสัญญาณของริ้วรอย การใช้มะนาวเฉพาะที่และภายในสามารถส่งเสริมผิวที่สดชื่นและอ่อนเยาว์
ช่วยขจัดผิวที่ตายแล้ว
เมื่อเราอายุมากขึ้นการผลัดเซลล์ผิวตามธรรมชาติของเราจะทำงานได้ไม่ดีเหมือนตอนเป็นวัยรุ่น แต่เราไม่จำเป็นจะต้องรอการผลัดเซลล์ตามธรรมชาติก็ได้กรดซิตริกที่มีอยู่ในผลไม้รสเปรี้ยวสามารถช่วยขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วออกไปเผยผิวใหม่ที่สดใส เปล่งปลั่งและอ่อนเยาว์และยังจะป้องกันไม่ให้เซลล์ผิวเก่าเกาะอยู่รอบ ๆ ลดการอุดตันรูขุมขนขนทําให้เกิดสิว
ลองทำดู
- ดื่มน้ํามะนาวหนึ่งแก้วทุกวันช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันล้างพิษในร่างกายของเราและทําให้ผิวของเราเปล่งปลั่งและชุ่มชื้น
- หากคุณต้องการใช้มะนาวบนผิวของคุณควรลองกับผิวส่วนอื่นที่มีความบอบบางก่อนให้บนใบหน้า ให้ผสมน้ํามะนาวและน้ําในเปล่าอัตราส่วน 2:3 และค่อย ๆ นําไปใช้กับผิวบนบริเวณที่มีจุดด่างดำ สิว หรือผิวที่มีปัญหาโดยทิ้งไว้ 10 นาทีแล้วล้างด้วยน้ําเย็น
- นอกจากนี้คุณยังสามารถเพิ่มน้ํามะนาวไม่กี่หยดลงในมาสก์หน้าโฮมเมดสูตรอื่น ๆ ได้อีกด้วยนะ
5.นมเปรี้ยว(ลิ่มนม)
ก่อนอื่นนมเปรี้ยวกับโยเกิร์ตเหมือนกันหรือไม่? คุณอาจได้ยินคําว่า “นมเปรี้ยว” และ “โยเกิร์ต” ที่ใช้แทนกันได้แม้ว่าพวกมันจะมีลักษณะคล้ายกันแต่นมเปรี้ยวและโยเกิร์ตค่อนข้างแตกต่างกันนมเปรี้ยวทําโดยสารที่เป็นกรดที่กินได้ เช่น น้ําส้มสายชูหรือน้ํามะนาว ส่วนโยเกิร์ตถูกสร้างขึ้นด้วยแลคโตบาซิลลัสบัลแกเรียและสเตรปโตคอคคัสเทอร์โมฟิลัส ประโยชน์ของการใช้นมเปรี้ยวบนใบหน้ามันช่วยให้ผิวรู้สึกผ่อนคลายอย่างไม่น่าเชื่อ พร้อมช่วยปรับปรุงคุณภาพผิว รักษาและระดับความชุ่มชื้น คืนความสว่างและความยืดหยุ่นของผิวหนังที่ดีขึ้น
- ช่วยผลัดเซลล์ผิว – นมเปรี้ยวเช่นเดียวกับผลิตภัณฑ์นมอื่น ๆ มีกรดแลคติกซึ่งอาจช่วยผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วและทําให้ผิวเรียบเนียน
- บํารุงผิวของคุณ – มีปริมาณไขมันโปรตีน แร่ธาตุที่จําเป็น และวิตามินดีสูง สารเหล่านี้เป็นสารอาหารทั้งหมดที่จําเป็นให้กับผิว
- ในนมเปรี้ยวช่วยบํารุงผิวของคุณและรักษาสุขภาพให้มีสุขภาพดี
- รักษาสุขภาพผิว – แคลเซียมที่มีอยู่ในนมเปรี้ยวช่วยให้ปัญหาผิวโดยการรักษาความยืดหยุ่นและการปรับปรุงความสว่างของสีผิว
- ช่วยให้ผิวของคุณชุ่มชื้น – ปริมาณไขมันที่อุดมไปด้วยในนมเปรี้ยวสามารถช่วยปิดผนึกความชุ่มชื้นเข้าสู่ผิวของคุณทําให้มีความชุ่มชื้นเป็นเวลานาน
- ปลอบประโลมผิว – นมเปรี้ยวมีฤทธิ์เย็นบนผิว มันสามารถบรรเทาการอักเสบและสิวและทําให้ผิวรู้สึกสบายขึ้น
- นมเปรี้ยวมีหน้าที่ควบคุมความมันส่วนเกินหรือการผลิตน้ํามันในผิวของคุณซึ่งมักเป็นสาเหตุของสิว
- ปริมาณสังกะสีในนมเปรี้ยวทําให้แน่ใจได้ว่าจะเร่งการเจริญเติบโตของเซลล์ผิวทําให้ดูสดชื่นและอ่อนเยาว์มากขึ้น
ลองทำดู
- ผสมนมเปรี้ยว 2 ช้อนโต๊ะและน้ําผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะ แล้วทาส่วนผสมให้ทั่วใบหน้าทิ้งไว้ประมาณ 20 นาทีแล้วล้างออกด้วยน้ําเย็น
นอกจากการสรรหาอะไรต่าง ๆ มาบำรุงแล้วเรายังมีกิจกรรมง่าย ๆ ที่ยังสามารถเสริมคุณภาพผิวของคุณให้ผิวเปล่งประกายมากขึ้นด้วยการนอนหลับให้เพียงพอเพราะเมื่อคุณนอนหลับเซลล์ของคุณสามารถล้างสารพิษโดยการนอนหลับ 7 – 8 ชั่วโมงทุกวันเพื่อการทํางานของสมองที่ดีที่สุดและสุขภาพที่ดีขึ้น พร้อมทั้งการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอเป็นประจําทุกวันไป ช่วยให้คุณฟิตร่างกายช่วยเพิ่มสุขภาพหัวใจและการไหลเวียนโลหิตและมีความสําคัญต่อการรักษาร่างกายที่แข็งแรงโดยรวมนี้เรารวมถึงสุขภาพผิวด้วยนะคะ เชื่อเถอะว่ากิจกรรมเหล่านี้จะสามารถช่วยให้ผิวโกลว์สุขภาพดีได้ไม่ยากเลยล่ะ piwd-review
เครดิต : 666slotclub.com