ใช้ Omega Oil ทาผิวได้หรือเปล่า?

กรดไขมันที่จำเป็นต่อสุขภาพแล้วเป็นมิตรกับผิวหรือเปล่านะ!

กรดไขมันโอเมก้ามันคืออะไร? ทำงานอย่างไร? ทาบนผิวได้หรือไม่? เรามีคำตอบ

โอเมกาชื่อนี้ใคร ๆ ก็รู้จักในฐานะที่เป็นไขมันดีที่ร่างกายของเราต้องการมันมีประโยชน์ต่อสุขภาพมากมายและเมื่อร่างกายเกิดความสมดุลมันก็จะทำให้สุขภาพผิวดีขึ้นด้วยเช่นกันไม่ใช่แค่ความสวยงามมันยังสร้างความชุ่มชื้น นำมันที่ดีบนผิว และมอบความเรียบเนียนแต่หนึ่งปัจจัยสําคัญที่ทำให้ร่างกายขาดความสมดุลคืออาหารที่เลือกทานในชีวิตประจำวันที่นับวันมีแต่ของที่ให้โทษต่อร่างกายซะเป็นส่วนมาก ความไม่สมดุลในอาหารนี้แหละอาจนําไปสู่โรคเรื้อรังอีกหลายโรครวมถึงผิวพรรณที่ไม่เปล่งปลั่ง เราจึงอยากให้คุณรู้จักกับประโยชน์ของ Omega Oil ว่าจำเป็นขนาดไหนต่อการเสริมสร้างผิวและสุขภาพโดยรวมได้อย่างไร

กรดไขมันโอเมก้าคืออะไร 

โอเมก้าเป็นสารอาหารที่คุณจะได้รับจากอาหารหรืออาหารเสริมเท่านั้นซึ่งจะช่วยสร้างและรักษาร่างกายให้แข็งแรง มันเป็นกุญแจสําคัญในโครงสร้างทุกที่ของผนังเซลล์มันยังเป็นแหล่งพลังงานและช่วยให้หัวใจปอดหลอดเลือดและระบบภูมิคุ้มกันของคุณทํางานในแบบที่ควร

ไขมันโอเมก้าเสริมสร้างสุขภาพที่ดี เช่น

• ปรับปรุงสุขภาพหัวใจ
• ช่วยจัดการคอเลสเตอรอลไตรกลีเซอไรด์
• ลดระดับความดันโลหิต 
• สนับสนุนสุขภาพจิต 
• ช่วยจัดการหรือป้องกันภาวะซึมเศร้า
• ป้องกันหรือช่วยโรคพาร์กินสันและผู้ที่มีความเสี่ยงของโรคจิต
• ลดน้ําหนักและขนาดรอบเอว
• ลดไขมันในตับ 
• สนับสนุนการพัฒนาสมองของทารก 
• ช่วยจัดการการอักเสบที่เกิดขึ้นกับโรคเรื้อรังบางชนิด 

กรดไขมันโอเมก้าพบได้ในปลาและน้ำมันพืชหลายชนิดเป็นที่รู้จักกันดีในด้านประโยชน์ทางโภชนาการที่โดดเด่นเมื่อบริโภคผ่านอาหารหรืออาหารเสริมซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของอาหารเพื่อสุขภาพ แต่คุณอาจไม่ทราบถึงประโยชน์ที่น่าอัศจรรย์ที่พวกมันมีเมื่อใช้ทาบนผิวหนัง

กรดไขมันโอเมก้าเป็นไขมันที่มีคุณค่าทางโภชนาการอาหารและเพื่อผิวของคุณ มีกรดไขมันโอเมก้า 11 ชนิด โดยสองชนิดใหญ่ ๆ (โอเมก้า 3 และโอเมก้า 6) ถือเป็นกรดไขมันจำเป็น เนื่องจากร่างกายไม่สามารถสร้างมันขึ้นมาได้เอง

โอเมก้า 3 : พบในอาหาร เช่น ปลา เมล็ดแฟลกซ์ (ลินซีด) วอลนัท และน้ำมันเจีย รวมถึงสาหร่ายบางชนิด

โอเมก้า 6 : มีมากมายในน้ำมันพืช กรดไลโนเลอิก และน้ำมันเสาวรส

โอเมก้า 9 : ในน้ำมันเมล็ดแฟลกซ์ น้ำมันถั่วเหลือง คาโนลา ถั่วลิสง และน้ำมันดอกทานตะวัน

โอเมก้า 3 6 9 ทั้งหมดนี้มีประโยชน์คล้าย ๆ กัน คือการกระตุ้นกรดไขมันในร่างกายเนื่องจากร่างกายมนุษย์ไม่สามารถผลิตโอเมก้า 3 ได้คุณจึงต้องได้รับจากอาหาร เช่น ปลาและธัญพืชต่าง ๆ สมาคมโรคหัวใจแห่งสหรัฐอเมริกา (AHA) แนะนําให้กินปลาอย่างน้อยสองมื้อต่อสัปดาห์โดยเฉพาะปลาที่มีความมันซึ่งอุดมไปด้วยกรดไขมันโอเมก้าซึ่งมีหลายประเภทแตกต่างกันไปตามรูปร่างและขนาดทางเคมี 

สารสามประเภทที่พบบ่อยในโอเมก้า

กรดไอโคซาเพนทาเอโนอิก (EPA) : ซึ่งช่วยลดการอักเสบ ช่วยลดอาการซึมเศร้า 

กรดโดโคซาเฮกซาเอโนอิก (DHA) : มีส่วนช่วยในการพัฒนาและการทํางานของสมอง

กรดอัลฟาไลโนเลนิก (ALA) : กรดไขมันตัวนี้สามารถแปลงเป็น EPA และ DHA มันดูเหมือนจะเป็นประโยชน์ต่อหัวใจระบบภูมิคุ้มกันและระบบประสาท

อาหารที่รู้จักกันดีที่สุดที่มีโอเมก้า คือ น้ํามันปลา โดยน้ำมันปลาแตกต่างจากแหล่งโอเมก้าจากพืช(แบบมังสวิรัติ) อื่นเช่น เมล็ดแฟลกซ์ เมล็ดเจีย และน้ํามันถั่วเหลือง น้ํามันปลานั้นจะถูกดูดซึมเข้าสู่ร่างกายได้ง่ายกว่าการบริโภคโอเมก้าที่ได้มากจากพืชเพราะร่างกายจะต้องทำปฏิกิริยาแปลงน้ำมันพืชเหล่านี้ก่อนที่ร่างกายจะสามารถใช้งานได้

โอเมก้ามีปฏิสัมพันธ์กับผิวหนังอย่างไร?

กรดไขมันโอเมก้า 3 และ 6 ไม่เพียงแต่จำเป็นต่อการบริโภคเท่านั้น แต่เมื่อนำไปใช้กับผิวหนังมันมีบทบาทในการเสริมเกราะป้องกันและการรักษาสภาพผิวของคุณอีกด้วย กรดไขมันโอเมก้าเป็นสารอาหารจําเป็นที่พบในอาหารบางชนิด ทําหน้าที่ควบคุมการผลิตน้ํามันของผิวปรับปรุงความชุ่มชื้นที่สมดุลลดการอักเสบและลดสัญญาณของริ้วรอย โอเมก้ายังสามารถช่วยให้ผิวหยาบกร้านแห้งนุ่มและมีผลลดการระคายเคืองและโรคผิวหนัง แต่นั่นไม่ใช่ทั้งหมดที่ผิวจะได้รับมีการวิจัยแสดงให้เห็นว่าการทานน้ํามันปลาเป็นประจําอาจช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันลดความเสียหายของผิวต่อรังสียูวีและมะเร็งผิวหนังได้อีกด้วย

การได้รับโอเมก้าเข้าสู่ร่างกายไม่ว่ามาจากผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร หรืออาหารอื่น ๆ สามารถไปกระตุ้นองค์ประกอบของกรดไขมันในผิวของคุณและปรับสมดุลการตอบสนองการอักเสบ กล่าวอีกนัยหนึ่งผิวจะนุ่มขึ้นและอักเสบน้อยลง! การรักษาระดับกรดไขมันบนผิวของคุณจะเข้าไปเสริมเซลล์ผิวช่วยลดผลกระทบของความเสียหายจากแสงแดดและปรับปรุงสภาพผิวที่บอบบางให้ผิวแข็งแรงขึ้น

ปริมาณในการทานเท่าไหร่ถึงจะพอ?

จริง ๆ แล้วไม่มีปริมาณตายตัวในการทานโอเมก้า แต่อย่างไรก็ตามเพื่อความเป็นกลางต่อร่างกายผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพแนะนําให้ผู้ใหญ่ทานในปริมาณ 500 มิลลิกรัมต่อวัน (มีปริมาณเทียบเท่ากับปลาที่มีไขมันดีสองมื้อต่อสัปดาห์) 

มีหนึ่งในความเข้าใจผิดที่พบบ่อยที่สุด คือ ไม่ใช่ปลาอะไรก็ได้ที่จะเป็นแหล่งโอเมก้าที่ดี ในความเป็นจริงปลาที่แตกต่างสายพันธุ์กันจะมีระดับสารอาหารที่แตกต่างกันเกิดจากชีวภาพของปลา แหล่งที่มาตามแหล่งธรรมชาติหรือการเพาะเลี้ยง

การทาน้ำมัน Omega บนผิวโดยตรงหละ?

โดยที่เรามักรู้จักกันดีว่าเป็น “น้ํามันปลา” มันประกอบด้วยกรดไขมันไม่อิ่มตัวมีวิตามิน A และ D ซีลีเนียมและเรตินอลธรรมชาติ นอกจากการทานเป็นอาหารเสริมแล้วในทางเทคนิคคุณยังสามารถนําไปใช้กับผิวหนังผมและเล็บของคุณได้อีกด้วยแต่ระวังกลิ่นสุดแสนจะคาวของมันด้วยหละแต่ไม่เป็นไรหากอยากได้รับประโยชน์ของมันเพราะตอนนี้ในอุตสาหกรรมความงามได้มีผลิตภัณฑ์ที่จะมอบผลลัพธ์ที่ดีแต่ไม่ต้องทนกับกลิ่นฉุนอีกต่อไป

น้ํามันปลาสามารถปรับปรุงผิวได้จริงเหรอ?

ที่จริงแล้วเมื่อใช้ทาน้ํามันปลามันสามารถเป็นมอยเจอร์ไรเซอร์ที่มีประสิทธิภาพถ้าคุณโอเคกับกลิ่นนะ! มันอาจช่วยลดการอักเสบ ส่งเสริมการรักษาบาดแผล และให้การป้องกันรังสียูวีจากดวงอาทิตย์

ประโยชน์ของการทาน้ำมัน Omega บนผิวโดยตรง

• เสริมความแข็งแรงให้ผิวเรียบเนียน
• เพิ่มความชุ่มชื้นโดยไม่รู้สึกหนักหน้าและช่วยให้ผิวชุ่มชื้น
• ปลอบประโลมจากปัจจัยภายนอก รวมทั้งความแดงและความอ่อนแอของผิว
• หมดปัญหาผิวขาดน้ำ ลอกเป็นขุย
• ผิวแข็งแรงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
• มอบสารต้านอนุมูลอิสระเพื่อลดเลือนริ้วรอยและรอยเหี่ยวย่นอย่างเห็นได้ชัด

โอเมก้ามีประโยชน์อย่างยิ่งเมื่อใช้ร่วมกับส่วนผสมอื่น ๆ มันจะช่วยให้ส่วนผสมเหล่านี้ฟื้นฟูผิวหน้าได้เร็วยิ่งขึ้นสามารถใช้ร่วมกัน เช่น เซราไมด์ หรือกลีเซอรีน  

เราขอแนะนำผลิตภัณฑ์ที่น่าสนใจเกี่ยวกับ OMEGA

OMEGA SOOTHING CREAM

จาก Eucerin

ราคา 555 บาท

ขนาด 50 ml

แบรนด์คุณภาพที่คุ้นหน้าคุ้นตาได้รังสรรค์ครีมบำรุงผิวหน้าและผิวกายที่มีส่วนผสมอย่างโอเมก้าออยล์  ผสาน Omega 3&6 fatty acids และ Ceramides เพื่อคืนความชุ่มชื่นและฟื้นบำรุงชั้นปกป้องผิว ให้มีสุขภาพดีขึ้น เป็นสูตรอ่อนโยนปราศจากพาราเบน น้ำหอมและสี 

ซื้อเลย! https://shopee.co.th

Omega 3 Serum 

จาก Bioglo

ขนาด 30 ml.

ราคา 912 บาท

เซรั่มสูตรนี้โดดเด่นด้วยโอเมก้า-3 จากพืชเหมาะสำหรับผู้ที่เป็นมังสวิรัตที่ต้องการผิวที่อ่อนเยาว์ ซึ่งได้สารสกัดสุดพิเศษนี้มาจากพืชที่ชื่อว่า Inca Inchi หรือชื่อที่คุ้น ๆ แถวบ้านเรานั้นเรียกว่าถั่วดาวอินคาซึ่งมีคนกล่าวว่าดีกว่าน้ำมันกัญชาถึง 3 เท่าเป็นที่รู้จักกันดีว่าเป็นสุดยอดน้ำมันที่ได้มาจากพืชปราศจากการทารุณกรรมสัตว์ยังไม่พอทางแบรนด์ได้นำไปเข้ากับส่วนผสมอื่น ๆ เพื่อลบเลือนริ้วรอยคืนความอ่อนเยาว์และสุดยอดของการรักษาความชุ่มชื้นปรับปรุงความอ่อนนุ่มผิวและลดความหยาบกร้าน

ซื้อเลย! https://www.ecosway.co.th

Omega+Complex Serum

จาก Paula’s Choice

ราคา 1,520 บาท

ขนาด 30 ml

ทําไมมันถึงแตกต่าง? เซรั่มนี้มีความเข้มข้นของโอเมก้า 3, 6 และ 9 มากได้รวมเข้ากับเซราไมด์เป็นส่วนผสมให้ความชุ่มชื้นเพื่อปรับปรุงสุขภาพผิวอย่างเห็นได้ชัด ช่วยเติมเต็มผิวหมองคล้ําขาดน้ําฟื้นคืนความรู้สึกเรียบเนียนอย่างสวยงามอ่อนนุ่มลดริ้วรอยอย่างเห็นได้ชัด

ซื้อเลย! https://www.paulaschoice.co.th/product/omegacomplex-serum/ 

omega 3 night repair serum

จาก ren

ราคา 1,515 บาท

ขนาด 30 ml

มอบการบำรุงอาหารผิวของคุณอย่างเต็มที่ด้วยสารอาหารเข้มข้นจากโอเมก้าเซรั่มน้ํามันที่จะเปลี่ยนแปลงการเสริมสร้างเกราะป้องกันไขมันของผิวและเพิ่มพลังในการฟื้นฟูเซลล์และเพิ่มระดับความชุ่มชื้นเพิ่มสุขภาพผิว ในขวดนี้มันอัดแน่นไปด้วยโอเมก้า 3 จาก Brown Algae และ Inca Inchi Oil ช่วยลดอาการของริ้วรอยโดยเพิ่มความกระชับและความอ่อนนุ่มสําหรับผิวที่ดูอวบอิ่มและชุ่มชื้นอย่างเห็นได้ชัด มีโอเมก้า 6 & 9 จากสาหร่ายสีน้ําตาลที่จะช่วยบรรเทาอาการระคายเคือง วิตามินเอจากน้ํามันเมล็ดโรสฮิปช่วยกระตุ้นการหมุนเวียนของเซลล์ ในขณะที่วิตามินอีจากน้ํามันจมูกข้าวจะช่วยต่อสู้กับอนุมูลอิสระและปกป้องจากความเสียหายออกซิเดชัน ประโยชน์ปังขนาดนี้จะพลาดได้ไงคะ

ซื้อเลย! https://www.revolve.com

Peptides & Omegas Firming Eye Cream

จาก Allies of Skin

ราคา 2,470 บาท

ขนาด 15 ml

มาถึงการดูแลรอบดวงตากันสักหน่อยและเป็นอีกหนึ่งแบรนด์ที่เป็นมังสวิรัติ ราคาอาจจะดูแรงแต่ถ้าหากแทบราคากับแบรนด์ชั้นนำอื่น ๆ เข้าขั้นว่าเป็นราคาที่น่ารักเลยทีเดียวเมื่อเทียบกับคุณภาพที่มีส่วนผสมเปปไทด์ประสิทธิภาพสูงกับโอเมก้าเข้มข้นเพื่อเข้าไปปรับปรุงริ้วรอยถึงสามประเภทด้วยกัน คือ ตีนกา รอยย่นหน้าผาก และเส้นน้ำหมาก ช่วยฟื้นฟูดวงตาที่ดูเหนื่อยล้ากลับมากระชับทรงพลังและกระจ่างใสอีกครั้ง โดยมีประสิทธิภาพในเรื่องรอยคล้ําและอาการบวม เหมาะสําหรับทุกสภาพผิวรวมถึงผิวบอบบางปราศจากสารอันตรายต่อผิว เช่น ซิลิโคน ซัลเฟต แอลกอฮอล์ เรตินิล  สีย้อม สารสังเคราะห์ และน้ําหอม

ซื้อเลย!https://www.revolve.com 

OMEGA HYDRATING OIL

จาก LANCER

ราคา 3,490 บาท

ขนาด 30 ml

Face Oil ขวดนี้จะมอบผิวเด้งฉ่ำโกลวให้คุณแบบขั้นสุดเลยล่ะ เพราะการซึมซาบแบบดีเยี่ยม ซึ่งไม่ใช่แค่การซึมซาบแบบธรรมดาเพราะสิ่งที่ซึมลงไปนั้นเต็มไปด้วยสารสกัดที่จำเป็นกับผิวหน้าทั้ง Argan oil, Olive oil, Shinko Oil, Licorice เสริมด้วย Omega Fatty Acids 3, 6, 9 หลาย ๆ คนอ่านแล้วอาจจะกลัวว่าว๊ายผิวมันแย่เลย เราขอแนะนำให้ใช้แค่ 1 – 3 หยดเท่านั้นแล้วแต่สภาพผิว(มัน-ธรรมดา-แห้งเรียงตามนี้) ออยล์นี้จะเข้าไปปรับสมดุลน้ำมันและความชุ่มชื้นบนผิวให้เป็นปกติจนทำให้ผิวกลับมาแข็งแรงขึ้นอีกครั้ง 

ซื้อเลย! https://www.beautybox.so/products/omega-hydrating-oil 

การบำรุงผิวจากน้ำมันธรรมชาตินั้นไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิดเมื่อใช้ให้พอเหมาะมันจะสามารถสร้างและฟื้นฟูผิวได้อย่างน่าเหลือเชื่อ เห็นมั้ยล่ะคะว่า Omega Oil นอกจากจะใช้ทานเป็นอาหารหรืออาหารเสริมบำรุงภายในแล้วยังสามารถใช้ทาบำรุงผิวภายนอกได้อีกด้วย แต่สำหรับคนที่ไม่อยากสัมผัสกับกลิ่นคาวของน้ำมันปลาก็มีทางเลือกอื่นคือการหันไปใช้ผลิตภัณฑ์สำเร็จแทนนอกจากจะได้รับ Omega ที่มีประโยชน์แล้วผลิตภัณฑ์เหล่านั้นยังเต็มไปด้วยสารสกัดจำเป็นอีกมากมายเพื่อสนับสนุนให้ผลลัพธ์ไวขึ้นอย่างน่าอัศจรรย์ piwd-review

เครดิต : เว็บสล็อต